ข้อจำกัดการใช้งาน, ระบบชื่อของส่วนประกอบ, การเข้ากันได – Petzl CROLL User Manual
Page 24: ข้อกำหนดการใช้งาน, การติดตั้งเข้ากับสายรัดสะโพก, การติดตั้งบนเชือก, วิธีการตรวจสอบการทำงาน, การไต่ขึ้นเชือก, การลงระยะสั้น ๆ, รายละเอียดของมาตรฐานรองรับ

25
CROLL B165000J (100608)
(TH) ไทย
เฉพาะข้อมูลทางเทคนิคที่แสดงในแผนผังซึ่งไม่ถูกขีดฆ่า และ / หรือไม่ได้แสดงภาพกากบาดบนหัว
กระโหลกเท่านั้นที่ถูกต้องตามมาตรฐาน เช็คจาก เว็ปไซด์ www.petzl.com เพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติมใหม่
ๆ ได้ตลอดเวลา
ติดต่อ PETZL หรือตัวแทนจำหน่ายถ้ามีข้อสงสัยหรือไม่เข้าใจเอกสารคำอธิบายนี้
ตัวไต่ขึ้นที่ตำแหน่งหน้าอก
1. ข้อจำกัดการใช้งาน
อุปกรณ์นี้เป็น อุปกรณ์ป้องกันภัยส่วนบุคคล (PPE) ตัวบีบจับเชือกสำหรับไต่ขึ้นเชือกใช้ยึดติดที่ห
น้าท้อง
อุปกรณ์ชนิดนี้จะต้องใช้ตามเกณฑ์การรับน้ำหนักตามที่กำหนดไว้, หรือไม่นำไปใช้ในทางอื่นที่ไม่ได้
ออกแบบมาให้ใช้งาน
คำเตือน
กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการใช้อุปกรณ์ชนิดนี้ เป็นกิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูง
ผู้ใช้จะต้องตระหนักและรับผิดชอบต่อสิ่งที่กระทำและการตัดสินใจ
ก่อนการใช้อุปกรณ์ชนิดนี้, ควรจะต้อง:
-อ่านและทำความเข้าใจข้อแนะนำการใช้งานให้ละเอียด
-ฝึกฝนการใช้อุปกรณ์ได้อย่างถูกวิธี
-ทราบถึงรายละเอียดของอุปกรณ์และข้อจำกัดในการใช้งาน
-ทำความเข้าใจและรับรู้ถึงความเสี่ยง
การนำอุปกรณ์ไปใช้โดยขาดการเรียนรู้ที่ถูกต้องอาจทำให้เกิดอันตรายอย่างรุนแรงถึงแ
ก่ชีวิต
ความรับผิดชอบ
คำเตือน, การฝึกฝนวิธีใช้กับกิจกรรมที่เกี่ยวข้องก่อนใช้งานเป็นสิ่งจำเป็น
อุปกรณ์นี้ต้องถูกใช้โดยบุคคลที่มีวุฒิภาวะและมีความรับผิดชอบเท่านั้น, หรือใช้ในสถานที่ที่อยู่ภายใต้
ความควบคุมของบุคคลที่มีความสามารถรับผิดชอบได้เท่านั้น
การฝึกฝนให้เพียงพอและเรียนรู้ถึงเทคนิควิธีการใช้อุปกรณ์ให้ถูกต้อง เป็นหน้าที่และความรับผิดช
อบของผู้ใช้งานเอง
เป็นความรับผิดชอบส่วนบุคคลต่อความเสี่ยงและความชำรุดบกพร่อง, รวมทั้งการบาดเจ็บหรืออันตรา
ยต่อชีวิตที่อาจเกิดขึ้นระหว่างหรือภายหลังการใช้อุปกรณ์ที่ผิดวิธีใด ๆ ก็ตาม ไม่ควรใช้อุปกรณ์นี้, ถ้าคุ
ณไม่สามารถหรือไม่อยู่ในสภาวะที่จะรับผิดชอบต่อความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น
2. ระบบชื่อของส่วนประกอบ
(1) รูสำหรับคล้องสายรัด, (2) ลูกล้อ, (3) ตัวจับพื่อความปลอดภัย, (4) รูสำหรับคล้องต่อเข้ากับสา
ยรัดนิรภัย
วัสดุประกอบหลัก: เฟรมทำจากอลูมินั่มอัลลอยด์, ลูกล้อทำจากเหล็กชุบโครเมี่ยม,
มือจับทำจากไนลอน ปิดทับด้วยยางเพื่อความหนืดในการจับ.
3. การตรวจสอบ, จุดที่ต้องตรวจสอบ
ก่อนการใช้งานทุกครั้ง
ตรวจเช็คอุปกรณ์ว่าปราศจากรอยร้าว, การผิดรูปร่าง, รอยตำหนิ, ชำรุด หรือสึกกร่อน ฯลฯ
ตรวจเช็คสภาพของเฟรม (ลำตัว) รูคล้องต่อ, ลูกล้อและตัวจับป้องกันภัย, สปริง และแกนลูกล้อ.
ข้อควรระวัง, อย่าใช้ตัวจับเชือกที่มีสภาพฟันสึกหรอหรือหลุดร่อนออก.
ศึกษารายละเอียดข้อแนะนำการตรวจสอบอุปกรณ์แต่ละชนิดของ PPE ที่เว็ปไซด์ www.petzl.com/ppe
หรือศึกษาจาก PETZL PPE CD-ROM
โปรดติดต่อ PETZL หรือตัวแทนจำหน่าย กรณีมีข้อสงสัยเกี่ยวกับอุปกรณ์นี้
ในระหว่างการใช้งานทุกครั้ง
เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่ต้องตรวจสอบสภาพของอุปกรณ์อยู่เป็นประจำ และการต่อเชื่อม
อุปกรณ์เข้ากับอุปกรณ์ตัวอื่นในระบบ เพื่อให้แน่ใจว่าอุปกรณ์ต่าง ๆ ในระบบอยู่ในตำแหน่ง
ที่ถูกต้องตามจุดมุ่งหมายในการติดยึดกับส่วนอื่น ๆ
คำเตือน, ควรระวังเกี่ยวกับ:
-สิ่งแปลกปลอมที่อาจเข้าไปติดขัดการทำงานของลูกล้อ
-สิ่งขัดขวางการทำงานของตัวจับป้องกันภัยซึ่งทำให้ลูกเบี้ยวถูกดันเปิดออก
4. การเข้ากันได้
ตรวจเช็คง่าอุปกรณ์นี้ สามารถใช้งานเข้ากันได้ดีกับอุปกรณ์อื่นในระบบ (เข้ากันได้ดี=
ใช้งานด้วยกันได้โดยไม่ติดขัด)
ตัวเชื่อมต่อ
แน่ใจว่า ห่วงล็อคคาราไบเนอร์ใช้งานได้ดีกับตัวบีบจับเชือก (รูปทรง, ขนาด,ฯลฯ) ใช้ร่วมกับตัวล็อครุ่น
OMNI M37 หรือ P118B ห่วงทรงสามเหลี่ยม หรือ P18 ห่วงครึ่งวงกลม
อุปกรณ์อื่น ๆ ที่ใช้ร่วมกับตัวบีบจับเชือกจะต้องได้มาตรฐานและอยู่ในระบบกฎเกณ์เดียวกัน
5. ข้อกำหนดการใช้งาน
ตัวบีบจับเชือกเป็นอุปกรณ์เพื่อการไต่ขึ้นเชือก ด้วยการลื่นไหลตัวขึ้นบนเชือกหนึ่งจังหวะ
และหยุดยั้งตามการควบคุม
ฟันของลูกล้อทำงานโดยการกดจิกลงบนเชือกที่อยู่ระหว่างลูกล้อและเฟรม ช่องว่างที่อยู่ระหว่างลูกล้อ
อาจเป็นเหตุให้ฝุ่นโคลนเข้าไปติดฝังอยู่
6. การติดตั้งเข้ากับสายรัดสะโพก
ติดตั้งอุปกรณ์เข้ากับสายรัดนิรภัยโดยเชื่อมต่อผ่านห่วงล็อค หรือ OMNI เข้ากับรูสำหรับคล้องต่อ
ติดยึดสายรัดอกที่รูคล้องด้านบน, อุปกรณ์จะติดยึดกับสายรัดอกอยู่ในตำแหน่งแนวดิ่ง
ปิดตัวลูกเบี้ยวของ CROLL เมื่อไม่ได้ใช้งานเพราะอุปกรณ์อื่น ๆ หรือสิ่งของอาจเข้าไปติดถ้ามันเปิ
ดค้างอยู่
7. การติดตั้งบนเชือก
ดึงที่แผงมือจับป้องกันภัยลงและล็อคมันกับเฟรมของอุปกรณ์ ตัวลูกล้อจะถูกเปิดค้างไว้
ใส่เชือกลงในพื้นที่ช่องว่างที่เปิดอยู่ ให้สังเกตุตามเครื่องหมายบอกตำแหน่งที่ตัวบีบเชือก บน / ล่าง
ผลักแผ่นมือจับเข้าไป ซึ่งจะทำให้ลูกล้อดันติดกับเชือก ในตำแหน่งนี้ แผ่นมือจับจะช่วยไม่ให้ลูกล้อดั
นเปิดออกเองโดยไม่ได้ตั้งใจ
การถอดเชือกออก
เลื่อนตัวอุปกรณ์ขึ้นบนเชือกพร้อมกับดึงกลไกตัวจับป้องกันภัยลงและดันออก
8. วิธีการตรวจสอบการทำงาน
ในการติดตั้งอุปกรณ์บนเชือกทุกครั้ง, ให้ตรวจเช็คว่ามันบีบกดติดกับเชือกแล้ว
9. การไต่ขึ้นเชือก
ใช้ CROLL และอุปกรณ์บีบจับเชือกตัวอื่น (เช่น ASCENSION ตัวมือจับเชือก)
ด้วยการใช้แถบสายรัดคล้องเท้า ผูกยึดติดตัวคุณกับอุปกรณ์ไต่ขึ้นตัวที่สองด้วยเชือกเซฟที่เหมาะสม
สถานการณ์ที่เป็นมุมเอียง
เมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่เป็นมุมเอียง, จะต้องทำให้เชือกอยู่ในแนวนอนซึ่งเสมือนใช้อุปกรณ์ในแนวดิ่งใ
ห้มากที่สุดเพื่อลดความเสี่ยงจากการที่ลูกล้อจะถูกดันเปิดออก
10. การลงระยะสั้น ๆ
การไหลตัวขึ้นเชือกในระยะสั้น ๆ ให้ใช้นิ้วชี้ดันลูกล้อลงไปในขณะเดียวกัน อย่าทำใดๆ กับกลไกของตั
วจับป้องกันภัยเพราะจะเป็นการเสี่ยงต่อการเปิดออกของลูกเบี้ยวโดยขาดการควบคุม
11. รายละเอียดของมาตรฐานรองรับ
EN 12841: 2006
CROLL เป็นอุปกรณ์สำหรับเชือก type B ใช้เพื่องานไต่ขึ้นเชือก
คำเตือน CROLL ต้องใช้ร่วมกับอุปกรณ์หลัก (type A backup) บนเชือกเส้นที่ 2
(เชือกเซฟ) (เช่น ตัวยับยั้งการตกสำหรับเชือก)
CROLL ไม่เหมาะสำหรับใช้ในระบบเพื่อยับยั้งการตก
ได้การรับรองมาตรฐาน EN 12841: 2006 type B:
-ใช้กับเชือกขนาด 10-13 mm EN 1891 type A แบบ semi-static kernmantel (หมายเหตุ:
การทดสอบต้องกระทำที่น้ำหนัก 100 กก. ด้วยเชือก BEAL Antipodes 10 มม. และเชือก
EDELWEISS Rescue 13 มม)
-ใช้ร่วมกับหมวดตัวต่อที่มีความยาวสูงสุดไม่เกิน 1 เมตร (เชือกสั้น + ตัวต่อ + อุปกรณ์)
เพื่อลดความเสี่ยงจากการตก, เชือกที่อยู่ระหว่างตัว CROLL กับจุดผูกยึดต้องตึงอยู่เสมอ
อย่าทิ้งน้ำหนักไปที่เชือกป้องกันภัยในขณะที่เชือกทำงานอยู่ในภาวะที่ตึง
แรงดึงกระชาก สามารถทำให้เชือกที่ผูกยึดสมอผาเสียหาย
EN 365: 2004
แผนการกู้ภัย
คุณจะต้องมีแผนการกู้ภัยและรู้วิธีการทำได้อย่างรวดเร็วในกรณีที่ประสบความยุ่งยากขึ้นในขณะที่ใช้อุ
ปกรณ์นี้ เป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องฝึกฝนอย่างเพียงพอให้รู้ถึงเทคนิคการกู้ภัย
จุดผูกยึด
จุดผูกยึดในระบบ จะต้องอยู่เหนือตำแหน่งของผู้ใช้งาน ตามข้อกำหนดของมาตรฐาน EN 795 ,ซึ่งระบุ
ไว้ว่าความแข็งแรงของจุดผูกยึดต้องไม่น้อยกว่า 10 kN
ข้อมูลต่างๆ
-ในขณะที่ต้องใช้อุปกรณ์หลายอย่างประกอบกัน, อาจทำให้เกิดอันตรายได้ถ้าองค์ประกอบเพื่อความป
ลอดภัยของอุปกรณ์บางชิ้นถูกกระทบกระเทือนโดยการทำงานของบางชิ้นส่วนของอุปกรณ์อื่น
-ข้อระวังอันตราย, จะต้องระมัดระวังอย่างยิ่งในเรื่องไม่ให้อุปกรณ์ไปเสียดสี หรือสัมผัสกับสิ่งมีคม
-ผู้ใช้ต้องมีสภาพร่างกายสมบูรณ์ตามการวินิจฉัยจากแพทย์ สำหรับการทำงานในที่สูง
-ข้อแนะนำสำหรับการใช้อุปกรณ์แต่ละชนิดที่ใช้ต่อเชื่อมกับอุปกรณ์นี้ต้องได้รับการยอมรับ
-ถ้าอุปกรณ์ ถูกส่งไปจำหน่ายยังนอกอาณาเขตของประเทศผู้เป็นแหล่งผลิต ตัวแทนจำหน่ายจะต้องจัด
ทำคู่มือการใช้งานในภาษาท้องถิ่นของประเทศที่อุปกรณ์นี้ถูกนำไปใช้งาน
12. ข้อมูลทั่วไป
อายุการใช้งาน
คำเตือน, ในสถานการณ์ที่รุนแรง, อายุการใช้งานของอุปกรณ์อาจลดลงเพียงการใช้งานแค่ครั้งเดียว
ยกตัวอย่างในกรณีต่อไปนี้: การถูกกับสารเคมี, เก็บในอุณหภูมิที่ร้อนจัดหรือเย็นจัด, สัมผัสกับสิ่งมีคม,
การตกกระชากที่รุนแรงเกินขีดจำกัด, ฯลฯ. อายุการใช้งานสูงสุดของอุปกรณ์ Petzl เป็นไปดังนี้: ได้ถึง
10 ปีนับจากวันที่ผลิต สำหรับพลาสติคและวัสดุสิ่งทอ ไม่จำกัดอายุสำหรับผลิตภัณฑ์โลหะ
ตามข้อเท็จจริง อายุการใช้งานของอุปกรณ์อาจขึ้นอยู่กับกฏเกณฑ์อื่น ๆ (ให้ดูจากข้อความที่ระบุว่า"เมื่
อไรควรเปลี่ยนอุปกรณ์ของท่าน"), หรือ เมื่ออุปกรณ์นั้นตกรุ่นและล้าสมัย
ข้อเท็จจริงของอายุการใช้งาน อาจขึ้นอยู่กับองค์ประกอบอื่น ๆ เช่น: ความเข้มข้นของการใช้,
ความถี่และสภาพแวดล้อม, ความสามารถของผู้ใช้, อุปกรณ์นั้นได้รับการเก็บรักษาอย่างไร, ฯลฯ
ควรตรวจสอบอุปกรณ์เป็นระยะ ๆ เพื่อดูร่องรอยชำรุดและ / หรือ
ความเสื่อมสภาพ
นอกเหนือจากการตรวจสภาพอุปกรณ์ตามปกติก่อนและระหว่างการใช้งาน, จะต้องทำการตรวจเ
ช็คอุปกรณ์โดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะเป็นประจำ การตรวจสอบอุปกรณ์โดยผู้เชี่ยวชาญจะต้องมีกำหน
ดอย่างน้อย ทุก ๆ 12 เดือน ความถี่และความคุมเข้มในการตรวจสอบอุปกรณ์ต้องกระทำตามข้อมู
ลเฉพาะและความรุนแรงของการใช้ สิ่งที่จะช่วยให้ทราบข้อมูลของอุปกรณ์ได้ดีคือ, ทำบันทึกแยก
ตามชิ้นส่วนของอุปกรณ์ทั้งหมดเพื่อให้รู้ประวัติการใช้งานของมัน ผลของการตรวจสอบอุปกรณ์
ต้องบันทึกไว้ในเอกสารการตรวจสอบ (บันทึก การตรวจสอบ) เอกสารการตรวจสอบต้องระบุ
หัวข้อต่อไปนี้: ชนิดของอุปกรณ์, รุ่นแบบ, ชื่อและที่อยู่ของโรงงานผู้ผลิต หรือตัวแทนจำหน่าย,
เครื่องหมายหรือสัญญลักษณ์ (หมายเลขกำกับ หรือ หมายเลขเฉพาะ), ปีที่ผลิต, วันที่สั่งซื้อ,
วันที่ใช้งานครั้งแรก, ชื่อของผู้ใช้, รายละเอียดอื่น ๆ เช่นการเก็บรักษาและความถี่ของการใช้,
ประวัติการตรวจเช็ค (วันที่ / ข้อมูลบันทึกเกี่ยวกับปัญหาจากการใช้ / ชื่อและลายเซ็นต์ของผู้เชี่ยวชาญ
ซึ่งได้ทำการตรวจเช็ค / วันที่กำหนดการตรวจเช็คครั้งต่อไป) ดูตัวอย่างและรายการทำบันทึกการตรวจ
สอบ และข้อมูลอื่น ๆของอุปกรณ์ได้ที่ www.petzl.com/ppe
ควรยกเลิกการใช้อุปกรณ์เมื่อไร
ยกเลิกการใช้อุปกรณ์ทันที ถ้า:
-ไม่ผ่านมาตรฐานการตรวจสอบ (ในการตรวจสอบก่อน และระหว่างการใช้ และ
ในการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญ)
-ได้มีการตกกระชากอย่างรุนแรงเกินขีดจำกัด
-ไม่สามารถรู้ถึงประวัติการใช้งานมาก่อน
-ครบอายุการใช้งาน 10 ปี ของวัสดุที่ทำด้วยพลาสติกหรือสิ่งทอ
-เมื่อมีข้อสงสัยเกี่ยวกับส่วนประกอบ
ให้ทำลายอุปกรณ์ที่เลิกใช้แล้ว เพื่อป้องกันการนำกลับมาใช้อีก
ผลิตภัณฑ์ที่ตกรุ่นหรือล้าสมัย
มีหลายเหตุผลที่ทำให้อุปกรณ์ล้าสมัย และถูกเลิกใช้ก่อนที่จะหมดอายุการใช้งานตามที่ระบุไว้
ตัวอย่างประกอบ: เปลี่ยนแปลงข้อมูลของมาตรฐานที่ใช้, เปลี่ยนกฏเกณฑ์, หรือโดยข้อกฏหมาย,
การพัฒนาของเทคนิคใหม่, ไม่สามารถใช้ร่วมกันได้กับอุปกรณ์อื่น ๆ, ฯลฯ
การดัดแปลงและซ่อมแซม
ห้ามดัดแปลงหรือแก้ไขอุปกรณ์ทุกชนิดเว้นแต่จะได้รับความยินยอมเป็นกรณีจาก PETZL การแก้ไขป
รับปรุงโดยไม่ได้รับความยินยอม อาจมีผลให้ประสิทธิภาพของอุปกรณ์ลดลง
การแก้ไขซ่อมแซมที่ทำนอกเหนืออำนาจของ PETZL เป็นการผิดกฏหมาย ติดต่อ PETZL หรือตัวแทน
จำหน่ายหากต้องการซ่อมแซมอุปกรณ์ของคุณ
การเก็บรักษา, การขนส่ง
ทำอุปกรณ์ให้แห้งสนิทหลังใช้งาน และเก็บไว้ในถุงบรรจุของมัน
เก็บให้ห่างจากแสง UV, ละอองไอน้ำ, วัสดุสารเคมี, ฯลฯ
สิ่งที่บอกถึงข้อมูลของอุปกรณ์และเครื่องหมาย
ห้ามแกะเครื่องหมายหรือป้ายออก ผู้ใช้ต้องเช็คให้แน่ใจว่าเครื่องหมายบนอุปกรณ์ยังสามารถมองเห็นไ
ด้โดยง่ายตลอดอายุการใช้งานของอุปกรณ์
การรับประกัน
ผลิตภัณฑ์นี้ รับประกัน 3 ปีต่อความบกพร่องของวัสดุที่ใช้ในการผลิตหรือจากขั้นตอน
การผลิต ข้อยกเว้นจากการรับประกัน: การสึกหรอและฉีกขาดตามปกติ, การเป็นสนิม,
การดัดแปลงแก้ไข, การเก็บที่ผิดวิธี, ขาดการบำรุงรักษา, การเสียหายจากอุบัติเหตุ, ความละเลย,
หรือการนำไปใช้งานผิดประเภท
PETZL ไม่ต้องรับผิดชอบต่อผลที่เกิดขึ้น, ทั้งทางตรง, ทางอ้อม หรือ อุบัติเหตุ,
หรือจากความเสียหายใด ๆ ที่เกิดขึ้น หรือ ผลจากการใช้ผลิตภัณฑ์นี้